บทความดังต่อไปนี้ได้รับการแปลมาจากบทความต้นฉบับภาษาอังกฤษซึ่งสามารถอ่านได้จากลิงค์ดังนี้: THE TRUTH ABOUT EXODUS ROAD
องค์กรป้องกันการค้ามนุษย์ ดิเอ็กโซดัสโร้ด (The Exodus Road) ถูกสร้างขึ้นโดย แมทต์ ปาร์คเกอร์ (Matt Parker) (เขาลบโปรไฟล์ LinkedIn ของเขาออกหลังจากเราลิ้งค์ไปหา) และ ลอร่า ปาร์คเกอร์ (Laura Parker) พวกเขาทั้งคู่ย้ายมาประเทศไทยและต้องการที่จะอยู่ที่นี่ในระยะยาว ดังนั้นพวกเขาจึงมีความคิดที่จะเริ่มมูลนิธิเพื่อให้สามารถอยู่ที่นี่ในระยะยาว ข้อมูลการเงินของพวกเขาบอกว่า แมทต์ ปาร์คเกอร์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารฝ่ายบริหารที่รับเงินถึง 148,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีและภรรยาของเขา ลอร่า ปาร์คเกอร์ รับเงินประมาณ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (รวมทั้งสิ้น 278,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีหรือประมาณ 9,839,760 บาทไทย) ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเงินเดือนเฉลี่ยในประเทศไทยที่อยู่ที่ประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนเท่านั้น
เซเลสต์ แมคกี้ (Celeste McGee), ผู้อำนวยการบริหารและผู้ก่อตั้งองค์กรป้องกันการค้ามนุษย์ Dton Naam ซึ่งช่วยเหลือเด็กชายและบุคคลเพศที่สามที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเพศ ชี้ให้เห็นว่าคู่สามีภรรยาพาร์คเกอร์มีรายได้รวมกันถึง 23,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนหรือกว่า 831,611 บาท
“ตัวเลขนี้น่าตกใจมาก” แมคกี้ กล่าว “พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีรายได้ 23,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนแม้ว่าพวกเขาต้องเดินทางไปมาระหว่างประเทศไทยและสหรัฐฯ”
ข้อมูลทางการเงินของ The Exodus Road: https://theexodusroad.com/financials/
บทความนี้จะกล่าวถึงปัญหาต่อไปนี้ของ The Exodus Road
- การส่งเสริมพฤติกรรมทางเพศของผู้หญิงในบาร์และซ่องซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวน
- การใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องเพศในองค์กร
- การใช้เงินบริจาคเพื่อการกุศลขององค์กรสำหรับดื่มและสังสรรค์กับผู้ขายบริการ
- การใช้เงินบริจาคเพื่อการกุศลเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้ขายบริการ
- รายได้ที่มากเกินไป การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย และรูปแบบการใช้ชีวิตที่หรูหราผิดปกติของผู้บริหารระดับสูงที่เน้นไปที่ผลประโยชน์ส่วนตัวซึ่งตรงข้ามกับการช่วยชีวิตผู้หญิง
- การจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ที่ทุจริตเพื่อโยนผู้บริสุทธิ์ขึ้นศาล
- การเรียกเก็บเงินอาสาสมัคร 4,500 ดอลลาร์เพื่อไปบาร์โดยอ้างว่าเป็นไปเพื่อการกุศล
- การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างไม่สุภาพ
- จำนวนเงินเดือนที่จ่ายให้กับพนักงานระดับสูงสองคนซึ่งเป็นคู่สมรสกัน
- วิธีการที่องค์กรใช้ในการนับจำนวนคนที่ระบุว่าได้ช่วยเหลือ
- การเยี่ยมชมบาร์เบียร์เพื่อค้นหาเด็กผู้หญิงที่ใช้บัตรประจำตัวปลอมหรือของเพื่อนมาทำงานที่บาร์ และบังคับให้พวกเขาให้การว่าถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์โดยนายจ้าง
- ข้อกล่าวหาที่ว่า เมื่อพวกเขาไม่พบเด็กผู้หญิงที่ถูกค้ามนุษย์ พวกเขาก็มักจัดฉากเด็กอายุ 16 หรือ 17 ปีที่ใช้บัตรประจำตัวของพี่สาวในบาร์ไปขอเข้าทำงาน แล้วบุกจับกุมเพื่อสร้างเครดิตให้กับองค์กร ดังนั้น เด็กผู้หญิงที่พวกเขาอ้างว่าได้ให้การช่วยเหลือก็คือเด็กผู้หญิงที่พวกเขาบังคับให้ไปสมัครงานที่บาร์เพื่อเรียกเงินบริจาค
- การไม่บอกเจ้าของธุรกิจว่าเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกำลังทำงานอยู่ในบาร์ของพวกเขา และการบังคับเด็กให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ขององค์กร
คลิกที่นี่เพื่อดู จดหมายเปิดผนึก The Exodus Road – หลักฐานที่ดีที่สุดที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างของเรา
พยาน/ผู้ลงนามร่วมด้านล่าง (ส่วนใหญ่เป็นอดีตพนักงานของ The Exodus Road)
The Exodus Road ทำเงินได้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?
The Exodus Road ไม่ได้ช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการได้รับการช่วยเหลือ แต่พวกเขาแอบไปสำรวจบาร์ในเวลากลางคืนพร้อมกับกล้องที่ซ่อนอยู่ซึ่งผิดกฎหมายเพื่อค้นหาเป้าหมายง่ายๆ โดยใช้เงินบริจาคเพื่อการกุศลซื้อบริการทางเพศกับหญิงขายบริการและอ้างว่าทำไปเพื่อการสืบสวน ในอุตสาหกรรมสถานบรรเทิง ผู้หญิงจำนวนมากใช้บัตรประจำตัวปลอมหรือยืมเพื่อนที่อายุเข้าเกณฑ์เพื่อหลอกเจ้าของธุรกิจสถานบรรเทิงเพื่อให้ได้งาน (ลิงก์ไปยังบทความอื่นเพื่อเป็นหลักฐานอยู่ด้านล่างและในจดหมายเปิดผนึก)
แทนที่จะเตือนเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่ทำงานในบาร์ของพวกเขา The Exodus Road กลับหาประโยชน์จากเด็กผู้หญิงเหล่านี้ โดยพวกเขากำหนดเป้าหมายไปที่บาร์กลางแจ้งในประเทศไทยที่ผู้หญิงเข้าออกได้อย่างอิสระ เมื่อพวกเขาพบเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยส่วนมากเลือกที่จะทำงานในอุตสาหกรรมทางเพศเอง) พวกเขาก็จะบังคับให้เด็กเหล่านี้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกนายจ้างบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า และให้เงินเดือนจำนวนมากในขณะที่การพิจารณาคดีดำเนินอยู่ พวกเขาให้เหตุผลว่าการใช้เงินบริจาคในบาร์กับหญิงค้าบริการทำไปเพื่อมองหาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
วิธีนี้ช่วยให้ The Exodus Road ประหยัดเงินได้มาก เพราะไม่จำเป็นต้องตรวจสอบหรือเสี่ยงเข้าไปสถานที่อันตรายซึ่งมีผู้หญิงที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่จริงๆ (องค์กรการกุศลอื่นๆ บอกว่าหายากมากที่ผู้ให้บริการทางเพศถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่เหยื่อเหล่านี้มักเป็นเด็ก) นี่คือสาเหตุที่ The Exodus Road ใช้ประเทศที่ทุจริต เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้
จากนั้น เมื่อไม่พบเด็กผู้หญิงที่ถูกค้ามนุษย์จริงๆ พวกเขาพยายามยัดเยียดเด็กอายุ 16 หรือ 17 ปีโดยใช้บัตรประจำตัวของพี่สาวในบาร์แล้วให้ไปสมัครงานในบาร์ ดังนั้นเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่พวกเขากำลังช่วยเหลือก็คือเด็กผู้หญิงที่พวกเขาบังคับให้ไปทำงานเพื่อรวบรวมเงินบริจาค
มีคนจำนวนมากแห่เสนอเงินมากถึง 20,000 บาทให้พนักงานตามสถานบันเทิงในประเทศไทย จ้างผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ The Exodus Road แจ้งเรื่องให้ตำรวจบุกจับเจ้าของบาร์ผู้บริสุทธิ์ พวกเขาประหยัดเงินด้วยวิธีการนี้เพื่อให้ได้รับเงินเดือนก้อนโต แต่แล้วผู้บริสุทธิ์ก็เข้าคุก
เหตุใด The Exodus Road จึงพยายามปกปิดตัวตนในโลกออนไลน์
องค์กรป้องกันการค้ามนุษย์ส่วนใหญ่มีศูนย์ช่วยเหลือจริงๆ ซีอีโอและพนักงานก็ไม่ได้ปิดบังชื่อ และพวกเขามีบัญชีโซเชียลมีเดียจริงๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบองค์กรการกุศลลักษณะนี้ในประเทศไทยได้ที่ https://thefreedomstory.org/ พวกเขาช่วยเหลือเด็กๆ จากค่ายแรงงาน และพวกเขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อดูแลเด็กๆ เรื่องเลวร้ายที่ The Exodus Road กระทำอีกประการหนึ่งคือ การแย่งเงินบริจาคไปจากองค์กรการกุศลที่ตั้งใจทำงานจริงๆ อย่าง The Freedom Story นั่นเอง
พนักงานนอกเครื่องแบบของ The Exodus Road แอบเข้าไปในบาร์ในประเทศไทยเพื่อสนุกสนานและมีเซ็กส์ และส่งเจ้าของบาร์ผู้บริสุทธิ์เข้าคุก ซึ่งไม่มีเจ้าของบาร์คนไหนรู้ว่าจ้างเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ศาสนาที่พวกเขาซ่อนไว้พูดอะไรเกี่ยวกับการกระทำเหล่านี้?
‘เยเรมีย์ 22:3 (NIV) “นี่คือสิ่งที่พระเจ้าตรัส: ‘ทำสิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้อง’ ช่วยกู้จากเงื้อมมือของผู้กดขี่ผู้ที่ถูกปล้น อย่าทำผิดหรือทำร้ายคน ลูกกำพร้าพ่อ หรือแม่ม่าย และอย่าทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือดในสถานที่นี้”
“สุภาษิต 17:15 ฉบับสากลใหม่ (NIV)
ทรงยกโทษผู้กระทำความผิดและประณามผู้บริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรังเกียจพวกเขาทั้งสอง”
ทำไมพวกเขาถึงผิดจรรยาบรรณ?
พวกเขาควรจะช่วยเหลือคดีค้ามนุษย์อย่างแท้จริง เพราะนั่นคือสิ่งที่ผู้บริจาคคิดว่าพวกเขาจ่ายเงินไป แต่พวกเขากำลังใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง เขาใช้เงินของผู้บริจาคเพื่อจ่ายค่าบริการทางเพศ จ่ายเงินให้ประเทศและเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตเพื่อจัดฉากนำผู้บริสุทธิ์เข้าคุก และใช้เงินของผู้บริจาคไปเที่ยวในบาร์เพื่อเที่ยวผู้หญิง โดยอ้างว่าทำไปเพื่อมองหาเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แล้วพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าใครยังไม่บรรลุนิติภาวะ?? เราได้รับข้อมูลว่าพวกเขามีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวเหล่านี้เพื่อขอข้อมูล
แมทต์ ปาร์คเกอร์ กล่าวว่าแม้ว่าผู้หญิงเหล่านี้จะเลือกทำงานในบาร์ด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากพวกเธออายุ 16 ถึง 17 ปี จึงถือว่าพวกเธอทำไปอย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้น The Exodus Road จึงสร้างคดีการค้ามนุษย์ที่ไม่ซื่อสัตย์เพื่อขอรับบริจาคมากขึ้น จากนั้นเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ถูกกฎหมายขู่ และได้รับเงินเดือนเพื่อบอกว่าถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แม้จะมีหลักฐานว่าหลอกเจ้าของธุรกิจด้วยบัตรประจำตัวของคนอื่น และขายบริการให้ลูกค้าด้วยตนเองก็ตาม
มีคนถามว่าทำไม The Exodus Road ไม่ไปทำแบบนี้ในสหรัฐอเมริกา นั่นเป็นเพราะว่า เนื่องจากการสืบสวนมีราคาแพงเกินไปและมีเงินทอนเหลือน้อย นอกจากนี้ มันไม่สนุกเท่ากับการไปเที่ยวในบาร์เพื่อหาเด็กไม่บรรลุนิติภาวะ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ติดตามคดีค้ามนุษย์ในประเทศอื่นเพราะมันมีราคาแพง ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกจับเจ้าของธุรกิจผู้บริสุทธิ์เข้าคุกในประเทศที่ทุจริตในขณะที่ซ่อนตัวอยู่หลังศาสนาเพื่อรับเงินบริจาค
แมทต์มักพูดเสมอว่าเขาไม่ชอบทำงานร่วมกับประเทศที่ทุจริตอย่างประเทศไทย แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ใช้ประโยชน์จากการคอร์รัปชั่นเพื่อให้องค์กรได้รับเงินบริจาคมากขึ้น
เรากำลังมองหาผู้แจ้งเบาะแสเพื่อช่วยเราหยุดยั้งองค์กรที่ชั่วร้ายนี้ องค์กรที่ใช้ประโยชน์จากเงินบริจาคเพื่อทุ่มไปกับการเที่ยวบาร์และสนับสนุนวิถีชีวิตฟุ่มเฟือยของผู้นำองค์กรในประเทศไทย
แมทต์ ปาร์คเกอร์เรียกเก็บเงินจากองค์กรการกุศลอื่นๆ ถึง 250 USD ต่อชั่วโมงเพื่อสอนวิธีหาเงินให้ได้แบบเขา นี่ฟังดูเหมือนเขาเป็นคนใจบุญอยู่หรือไม่?